THE PAIN :
- การคิดอะไรบางอย่างที่แปลกแหวกแนว ทำได้ไม่ยาก แต่การคิดออกมาแล้ว นำไปต่อยอดใช้งานได้จริงยากยิ่งกว่า
THE MIND :
สำหรับคนทำงานงานโฆษณา ในยุคนี้เป็นยุคข้อมูลทะลัก บนโลก Digital ใครก็ต่างมีตัวตนกันได้ไม่ยาก จึงเป็นโจทย์ของแบรนด์ และเอเจนซี่ ว่าจะทำงานออกมาแบบไหนให้ดึงดูสายตาผู้ชมได้มากกว่ากัน นอกจาข้อมูลที่แน่นแล้ว ความ Creative ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะหยุดสายตาของคนได้
วันนี้เราจะมาดู 2 วิธีการคิดนอกกรอบ หรือคิดงาน Creative ของคนที่ไม่ค่อยมีหัวทางด้านนี้กัน
1. คิดให้จบ แล้วใส่คำว่า “ถ้าไม่”
2. ถ้าหาก ?
3. สร้างไอเดียใหม่ จากการรวม
1. คิดให้จบ แล้วใส่คำว่า “ถ้าไม่”
หลายๆ คนคงเคยบ่นว่าการคิด Creative นั้นยากมาก แต่ถ้าถามขอไอเดียเรื่องพื้นฐานๆ เนี่ยตอบได้สบายๆเลย สมมุติถ้าถามว่า อยากได้ไอเดียการจัดงานวันเกิด
คำถามแรกที่ต้องตั้งขึ้นมาคือ
งานวันเกิดที่ดีต้องจัดแบบไหน ? (โดยยังไม่ต้องคิดให้ Creative)
– สั่งอาหารอร่อยๆมากิน
– ให้กล่องของขวัญมาให้
เรามาลองเปลี่ยนโหมดคำถาม โดยหาความ Creative โดยตั้งคำถามใหม่
ถ้าไม่สั่งอาหารมา ?
Creative : เชิญแต่ละคนมาทำอาหารด้วยกันแทน
ถ้าไม่ให้กล่องของขวัญ ?
Creative : ให้คนถือ หรือใส่ของขวัญมาเลยแบบไม่ต้องใส่กล่อง แล้วให้เจ้าของวันเกิดทายสนุกๆ ว่าได้ของชิ้นไหน
อันนี้เป็นวิธีที่ อาจจะใช้เวลาเยอะหน่อยเพราะว่าต้องคิดกระบวนการปกติออกมาก่อนทั้งหมด แล้วค่อยๆ ตั้งคำถามหาจุดที่น่าสนใจเอามา Creative แต่ถือเป็นวิธีที่ง่าย
2. ถ้าหาก ?
อันนี้จะยากขึ้นมานิดนึง อาจจะเกิดจากการที่เราพอมีไอเดียที่จับต้องได้อยู่แล้ว จะเป็นการต่อยอดไอเดียเดิม และสร้างตัวเลือกดีๆ หรือกระตุกความคิดที่ Creative ขึ้นมาให้
ถ้าเราจะจัดงานสัมนาสุดอลังการ คิดว่าจะไปจัดที่ Impact ให้ดูยิ่งใหญ่
แต่ถ้าหาก เราไม่ไปจัดที่ Impact หล่ะ ? ไปจัดที่ไหนแล้วทำให้ดูยิ่งใหญ่ได้มั้ย เราก็อาจจะได้ไอเดียว่า งั้นลองไปจัดที่สนามบอลดูมั้ย ?
การถามว่าถ้าหาก เป็นเหมือนกับ เป็นการหาไอเดียต่อยอดเพิ่มเติมจากที่มีอยู่
3. สร้างไอเดียใหม่ จากการรวม
ถ้าสุดท้ายคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะเอาอะไรมา Creative ได้ ก็ลองเอาของหลายๆสิ่งมารวมกันดู
โทรศัพท์ + กันน้ำ = โทรศัพท์กันน้ำ
โทรศัพท์ + คอมพิวเตอร์ = Smart phone
น้ำผลไม้ + น้ำสลัด = สลัดผลไม้
ความบันเทิง + ความเศร้า = หนังดราม่า
โจทย์หลายๆโจทย์ ไม่ได้ถูกแก้ หรือตอบด้วยความ Creative ทั้งหมดเพราะว่าความจริงแล้ว ไม่ว่าความคิดเราจะไปได้ไกลกี่ตลบ ต้องอย่าลืมเป้าหมายของงาน และความเป็นไปได้ด้วย ถ้าใครสามารถ Balance ทุกอย่างได้ลงตัว ก็จะสร้างผลงานที่ดีออกมาได้อย่างต่อเนื่อง